วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ขนมวุ้นมะพร้าวอ่อน

เครื่องปรุง + ส่วนผสม

ขนมหวานไทย : ขนมวุ้นมะพร้าวอ่อน

* หัวกะทิ 200 กรัม

* วุ้นผง 1 ช้อนโต๊ะ

* น้ำเปล่า 500 กรัม

* น้ำตาลทราย 150 กรัม

* เนื้อมะพร้าวอ่อน 50 กรัม

* น้ำมะพร้าวอ่อน 200 กรัม

ขนมหวานไทย : ขนมวุ้นมะพร้าวอ่อน
ขนมหวานไทย : ขนมวุ้นมะพร้าวอ่อน

วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน

1. นำหัวกะทิใส่หม้อและนำไปตั้งบนไฟอ่อนๆ ใส่เกลือลงไป คนให้ละลาย ปิดไฟทันที (อย่าให้กะทิแตกมัน)

2. ตั้งกระทะทองเหลือง (หรือใช้กระทะเทฟลอนแทนก็ได้) บนไฟร้อนปานกลาง ใส่น้ำเปล่าและวุ้นผง ลงไป รอจนเดือดใส่น้ำตาลทรายลงไป คนจนละลายจึงลดไฟลง

3. นำเนื้อมะพร้าวและน้ำมะพร้าวไปปั่นให้เข้ากัน แล้วใส่ลงในส่วนผสมวุ้น (ในข้อ 2) ใช้ไฟอ่อนๆ เคี่ยวอีก สักพัก จึงใส่กะทิที่เตรียมไว้ในข้อหนึ่งลงไป คนให้เข้ากันเสร็จึงปิดไฟ (หมายเหตุ : น้ำมะพร้าวอ่อนต้องหวาน เพราะเมื่อนำไปผสมทำวุ้นแล้วจะทำให้รสชาตเเปรี้ยวเหมือนวุ้นเสีย ถ้าไม่มีน้ำมะพร้าวอ่อนหวานให้ใช้น้ำลอยดอกไม้แทน)

4. เทส่วนผสมวุ้นลงในแบบหรือพิมพ์ที่เตรียมไว้ ทิ้งไว้ให้หายร้อน จึงนำเข้าไปแช่ในตู้เย็น

5. เคาะวุ้นออกจากแบบ จัดใส่จาน เสริฟเป็นของว่างในวันสบายๆ


ที่มา


http://www.ezythaicooking.com

ข้าวตูมะพร้าวอ่อน

เครื่องปรุง + ส่วนผสม

ขนมหวานไทย : ข้าวตูมะพร้าวอ่อน

* ข้าวสุกตากแห้ง 250 กรัม

* น้ำตาลมะพร้าว 250 กรัม

* น้ำกะทิ 50 กรัม

* มะพร้าวขูดฝอย 300 กรัม

* เนื้อมะพร้าวอ่อน 120 กรัม

* น้ำมะพร้าวอ่อน 200 กรัม

* เทียนอบ

ขนมหวานไทย : ข้าวตูมะพร้าวอ่อน
ขนมหวานไทย : ข้าวตูมะพร้าวอ่อน

วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน

1. นำข้าวสุกไปตากให้แห้ง ถ้าตากแล้วไม่แห้งดี สามารถนำไปอบได้ เมื่อแห้งดีแล้ว นำไปคั่วทีละน้อย โดยใช้ไฟอ่อนๆ เสร็จแล้วนำไปโม่บดให้ละเอียด

2. ตั้งกระทะทองเหลือง (หรือใช้กระทะเทฟลอนแทนก็ได้) บนไฟอ่อนๆ ใส่กะทิ, น้ำตาลมะพร้าว, มะพร้าวขูดฝอย, น้ำมะพร้าวและเนื้อมะพร้าวลงไปเคี่ยวจนกระทั่งส่วนผสมข้นเหนียว

3. ใส่ผงข้าวคั่วลงไปในกระทะและกวนต่อจนเหนียวพอปั้นได้ ปิดไฟ ทิ้งไว้ให้หายร้อน

4. อัดส่วนผสมใส่แบบที่เตรียมไว้ จากนั้นนำไปอบควันเทียนให้หอม เสริฟรับประทานได้ทันที หรือเก็บ ใส่ภาชนะมิดชิดเก็บไว้รับประทานภายหลังได้


ที่มา


http://www.ezythaicooking.com

วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ยำปลาเค็มเต้าหู้อ่อนเจ

ยำปลาเค็มเต้าหู้อ่อนเจ

อาหารเจ:ยำปลาเค็มเต้าหู้อ่อนเจ

เครื่องปรุงอาหารเจ

  • เต้าหู้หลอดสีขาวแช่ช่องทำน้ำแข้็งจนแข็งดี 1 หลอด
  • มะนาว
  • ซอสปรุงรส
  • น้ำตาลทราย
  • พริกขี้หนูซอย ตามชอบ

วิธีทำอาหารเจ

  1. นำเต้าหู้หลอดออกจากช่องแช่แข็ง วางทิ้งไว้ให้ละลายดี
  2. ตัดเต้าหู้เป็นแว่นหนาประมาณ 1 ซม. บีบน้ำออกให้ได้มากที่สุด
  3. นำเต้าหู้ไปทอดในน้ำมันร้อนไฟกลางจนเต้าหู้ออกสีน้ำตาลกรอบดี ตักขึ้น
  4. พรมเต้าหู้ด้วยซอสปรุงรสให้ทั่ว จัดใส่จานสำหรับเสิร์ฟ โรยด้วยน้ำตาลทรายนิดหน่อย
  5. บีบน้ำมะนาวให้ทั่วเต้าหู้ โรยหน้าด้วยพริกขี้หนู จัดเสิร์ฟกับข้าวต้มหรือข้าวสวยร้อนๆ

หมายเหตุ
- เต้าหู้หลอดควรแช่จนแข็งจริงๆ ถึงข้างใน ถ้าแข็งไม่พอ เวลาตัดเต้าหู้จะเละ ควรแช่อย่างน้อย 12 ชั่วโมง
- เมื่อนำเต้าหู้ออกจากตู้เย็นแล้ว ควรใช้มีดกรีดพลาสติกให้ขาดทั่วๆ เวลาน้ำแข็งละลาย น้ำจะได้ไหลออกง่าย ไม่ละลายแช่เต้าหู้อยู่ข้างใน บีบน้ำออกจากเต้าหู้ได้ง่ายขึ้น
- เมื่อทำเสร็จแล้ว เต้าหู้จะมีรสชาติและสีสันเหมือนกับปลาเค็ม


ที่มา


http://www.xn--q3cped3cb5f8b6d.com


ยำเห็ดรวมเจ

อาหารเจ : ยำเห็ดรวมเจ

ส่วนผสมอาหารเจ

  • น้ำซุปผัก (หรือน้ำเปล่า) 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนชา
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา

อาหารเจ : ยำเห็ดรวมเจ

ส่วนผสมอาหารเจ

  • น้ำซุปผัก (หรือน้ำเปล่า) 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนชา
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
  • เห็ดหลากหลายชนิดรวมกัน
  • พริกขี้หนูแดงโขลกระเอียด 1 ช้อนชา
  • มะนาว 2 ลูก
  • ขึ้นฉ่ายหั่นท่อน ประมาณ 3 ซม. 1 ต้น

วิธีทำอาหารเจ

  1. ผสมน้ำซุปผัก (หรือน้ำเปล่า) กับน้ำตาลปี๊บ เกลือ และซีอิ๊วขาว คนจนน้ำตาลและเกลือละลายเข้ากันดี
  2. ตั้งน้ำในหม้อ ไฟแรง พอเดือดจัดก็นำเห็ดทั้งหมดลงลวก แล้วใช้กระชอนตักขึ้น เทใส่กะละมัง
  3. เทน้ำยำตามลงไปทันที คลุกเคล้าให้เข้ากัน ใส่พริกขี้หนูโขลก บีบมะนาว ชิมรสให้เปรี้ยวนำ เค็ม หวานตาม
  4. ใส่ขึ้นฉ่าย คนเบาๆ แล้วตัดใส่จานสวย

ที่มา


http://www.xn--q3cped3cb5f8b6d.com

วันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ห่อนึ่งชาวเหนือเจ

ห่อนึ่งชาวเหนือเจ

อาหารเจ : ห่อนึ่งชาวเหนือเจ

ส่วนผสมอาหารเจ

  • โปรตีนเกษตรแช่น้ำจนพอง 1 ถ้วย
  • ผักกาดขาว 1 ต้น
  • ผักตำลึง 1 กำ
  • วุ้นเส้นแช่น้ำแล้วตัด 1 ถ้วย
  • น้ำพริกเครื่องแกง 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ

เครื่องปรุงอาหารเจ

  • ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสถั่วเหลืองปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือป่น 1 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  • พริกไทย 1 ช้อนชา

วิธีทำอาหารเจ

  1. คั่วพริกแกงในน้ำมันพืชพอหอม ใส่โปรตีนเกษตร ผักตำลึง ลงผัดให้สุก เติมเครื่องปรุงทุกอย่าง แล้วจึงใส่วุ้นเส้น ยกลงพักไว้
  2. นำใบตองาตัด เวลาห่อให้ใช้ผักกาดขาวสับรองพื้น ตักส่วนผสมวางไว้ข้างบน ห่อแล้วเย็บด้วยเข็มกลัด นำไปนึ่งไฟแรงๆ สัก 10 นาที รับประทานกับข้าวเหนียวหรือข้าวหุงร้อนๆ ก็ได้

ที่มา

http://www.xn--q3cped3cb5f8b6d.com

สลัดเต้าหู้ทอดซอสมะขาม

อาหารเจ:สลัดเต้าหู้ทอดซอสมะขาม

เครื่องปรุงอาหารเจ

  • เต้าหู้ขาวแข็ง 1/2 แผ่น
  • พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา
  • ซอสปรุงรส 1 ช้อนชา
  • แอปเปิ้ลเขียว 1/2 ลูก
  • เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด 10-20 เม็ด
  • น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต็ะ
  • ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันพืช 2 ถ้วยตวง
  • ผักสลัดใบเขียวใบแดงสวยๆ
  • พริกแห้งทอดตามชอบ
  • เหล้าจีน น้ำมันงา

วิธีทำอาหารเจ

  1. หั่นเต้าหู้เป็นชิ้นบางๆตามยาวให้ได้ประมาณ 6-8 ชิ้น หมักด้วยพริกไทยป่นและซอสปรุงรส
  2. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืช ใช้ไฟกลางจนน้ำมันร้อนดี นำเต้าหู้ลงไปทอดจนสุกเหลืองดี ตักขึ้นพักไว้
  3. เอาน้ำมันออกจากกระทะให้หมด ใช้ไฟอ่อนเคี่ยวน้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ ซอสปรุงรส จนเหนียวข้นดี เหยาะน้ำมันงาและเหล้าจีนอย่างละนิดพอหอม ปิดไฟ พักไว้ให้เย็น
  4. จัดสลัดเรียงซ้อนกันบนจานสำหรับเสิร์ฟ หั่นแอปเปิ้ลเขียวแผ่นบางๆวางเรียงบนจานสลัด แล้วเรียงเต้าู้หู้ทับลงบนแอปเปิ้ลเขียวให้สวย ราดด้วยซอสมะขามที่ทำไว้ โรยหน้าด้วยพริกแห้งทอด จัดเสิร์ฟได้

ที่มา


http://www.xn--q3cped3cb5f8b6d.com

วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ขนมมันสำปะหลัง























ปอกเปลือกมันสำปะหลังล้างให้สะอาด ขูดด้วยกระต่ายจีนพักไว้

นวดมันสำปะหลังขูดให้นิ่ม ใส่น้ำตาล แป้งมัน ลงนวดให้เข้ากัน ค่อย ๆ ใส่น้ำลงนวด
จนหมด ตักใส่ถ้วยตะไล หรือเทลงถาด โรยหน้าด้วยมะพร้าวทึมทึกขูดผสมเกลือ

เรียงขนมใส่ลังถึงนึ่งในน้ำเดือดประมาณ 15 นาที จนขนมสุกยกลง












ส่วนผสม
มันสำปะหลัง 2
เนื้อลูกตาลทราย 1
แป้งมัน 1
น้ำลอยดอกมะลิ 3 1/2


กิโลกรัม
กิโลกรัม
ถ้วยตวง
ถ้วยตวง

โรยหน้า
มะพร้าวทึมทึกขูด 3
เกลือ 1


ถ้วยตวง
ช้อนชา



ที่มา


http://bosszone2531.tripod.com

ขนมขี้หนู





























ผสมน้ำตาลทรายกับน้ำ 2 ถ้วย ตั้งไฟให้เดือดทำน้ำเชื่อม พอเดือดกรองด้วยผ้าขาวบาง
แบ่งน้ำเชื่อมอย่างละครึ่ง ใส่สีอ่อน ๆ

ผสมแป้งกับไข่แดงค่อย ๆ ใส่น้ำ 2 ถ้วย นวดให้เข้ากัน พอจับตัวกันเป็นก้อน ยีแป้งกับ
ตะแกรงตาถี่ ๆ หรือที่ร่อนแป้ง ยีให้เป็นผงลงในลังถึงที่ปูด้วยผ้าขาวบาง


นำแป้งที่ยีแล้วนึ่งด้วยไฟแรง ประมาณ 13-15 นาที แป้งสุกยกลง เทใส่อ่างน้ำเชื่อม
ในขณะที่แป้งร้อน คลุกให้เข้ากัน ปิดฝาพักไว้

ยีขนมอีกครั้งแล้วอบควันเทียนอบให้หอม ตักใส่พิมพ์โรยหน้าด้วยมะพร้าวทึมทึกขูด



















ส่วนผสม
แป้งข้าวเจ้า
ไข่แดง
น้ำสำหรับนวด
โรยหน้า
มะพร้าวทึมทึกขูด


8
1
2

1


ถ้วยตวง
ฟอง
ถ้วยตวง

ลูก

น้ำเชื่อม
น้ำตาลทราย
น้ำลอยดอกมะลิ
สีขนม
เทียนอบ


3
2
-
1


ถ้วยตวง
ถ้วยตวง
พอเหมาะ
อัน


ที่มา


http://bosszone2531.tripod.com

วันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2554

วิธีทำขนมเทียน

ขนมเทียน

ส่วนผสมแป้งห่อไส้ ปริมาณ
แป้งข้าวเหนียว 1 กิโลกรัม
น้ำตาลปีบ 1 1/2 ถ้วย
หัวกะทิ(มะพร้าวขูด1กก.) 4 ถ้วย
ส่วนผสมทำไส้ขนม
ถั่วซีกนึ่งสุกนำมาบด 1 กิโลกรัม
น้ำตาลทราย 350 กรัม
เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น 2 ช้อนโต๊ะ
หอมแดงหั่น 1 ถ้วย
น้ำมันพืช 1 ถ้วย
ต้นหอมซอย 1/2 ถ้วย


วิธีทำ

1 ส่วนผสมของตัวแป้งขนม
1.1 ใส่กะทิและน้ำตาลปีบลงไปในกะทะตั้งไฟให้เดือด คนผสมกันจนน้ำตาลละลาย
1.2 นำมานวดรวมกับแป้งจนแป้งนุ่ม ไม่เหนียวติดมือ และปั้นเป็นก้อนได้

2 ส่วนผสมของไส้ขนม
2.1 ตั้งกะทะไฟ ใส่น้ำมัน แล้วใส่หอมแดงผัดในกะทะให้หอม ใส่ถั่วที่นึ่งไว้แล้วตาม จากนั้นตามด้วยน้ำตาลทราย พริกไทย เกลือ ผัดให้เข้ากันจนแห้ง และใส่ต้นหอมที่หั่นไว้แล้ว
2.2 นำไส้ที่ได้มาปั้นเป็นก้อนกลม แล้วนำแป้งมาห่อหุ้มไส้ให้มิด

3 ใส่แป้งที่ห่อไส้แล้วลงในห่อใบตองรูปทรงกรวยแหลมแล้วพับเป็นรูปสามเหลี่ยมทรงสูง

4 นำขนมในห่อใบตองไปนึ่งในลังถึงด้วยน้ำเดือดไฟแรง ประมาณ 30 นาที

-หมายเหตุ

-เวลานวดแป้งถ้าใช้กะทิแทนน้ำจะทำให้แป้งนุ่มและหอม
-การห่อขนมเทียน ควรห่อในกรวยทรงแหลม เพื่อทำให้ขนมมีทรงสูง
-ใบตองที่ใช้ควรเป็นสีเขียวอ่อน ขนมที่ได้จะมีสีสวยไม่คล้ำ


ที่มา


http://xn--22c6bf6ag6r.net

ขนมถ้วยฟู

ขนมถ้วยฟู ความหมายดีและทำง่ายค่ะ

ขนมถ้วยฟู

ส่วนผสม ปริมาณ
ผงฟู 4 1/2 ช้อนชา
ไข่ขาว 1 ฟอง
แป้งข้าวเจ้า 500 กรัม
น้ำตาลทรายขาว 1 1/2 ถ้วย
น้ำ 2 1/2 ถ้วย
กลิ่นมะลิ 1 ช้อนชา

วิธีทำ
1 นำแป้งข้าวเจ้า ไข่ขาวและน้ำตาล มานวดเข้าด้วยกัน รินน้ำใส่ลงไปเพื่อให้น้ำตาลละลายเข้ากันได้ดีกับส่วนผสมของแป้งและไข่ แล้วใส่กลิ่นมะลิตามลงไป คนให้กลิ่นเข้ากัน
2 เรียงถ้วยกระเบื้องสำหรับนึ่งขนมไว้ในลังถึง นึ่งถ้วยในลังด้วยน้ำเดือดประมาณ 5 นาทีเพื่อให้ถ้วยร้อน
3 นำผงฟูที่เตรียมไว้ผสมกับส่วนผสมของแป้งที่ผสมแล้วคนให้เข้ากัน แล้วตักหยอดใส่ถ้วยจนเต็ม นึ่งด้วยไฟแรงประมาณ 20 นาทีจนกระทั่งสุก จะเห็นขนมแตกเป็น 3 หรือ 4 แฉก

-หมายเหตุ
แนะนำถ้าใส่น้ำมะนาวลงไปสัก 1 ช้อนชาจะทำให้รสชาติของขนมดีขึ้น


ที่มา

http://xn--22c6bf6ag6r.net/category

วันพุธที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ข้าวเหนียวเหลืองหน้ากุ้ง

ลองหัดทำข้าวเหนียวเหลืองหน้ากุ้งดูสิคะ ไม่ยากเลยค่ะ

ข้าวเหนียวเหลืองหน้ากุ้ง

ส่วนผสม ปริมาณ
หัวกะทิ 2 1/2 ถ้วย
่ข้าวเหนียวเขี้ยวงู 1000 กรัม
น้ำตาลทราย 350 กรัม
เกลือ 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
ขมิ้น 1 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสมหน้ากุ้ง
เนื้อกุ้งสับหยาบ 200 กรัม
มะพร้าวขูด 200 กรัม
กระเทียม 2 ช้อนชา
พริกไทย 2 ช้อนชา
รากผักชี 2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
เกลือป่น 2 ช้อนชา
น้ำมันใช้ผัด 1/4 ถ้วย
สีผสมอาหาร
ใบมะกรูดหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 3-4 ใบ

วิธีทำ
1 นำข้าวเหนียวมาล้างด้วยน้ำสะอาด 3 ครั้ง ผสมขมิ้นกับน้ำจะได้น้ำขมิ้น เทใส่ลงใสข้าวเหนียว แช่ไว้ค้างคืน
2 เกลือ น้ำตาล หัวกะทิ ผสมคนจนกว่าน้ำตาลละลาย
3 ข้าวที่แช่เสร็จไปนึ่งประมาณ 35-45 นาที เทใส่อ่างแยกแล้วผสมกะทิลงไป คนให้เข้ากัน
4 ปิดฝาทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จะได้ข้าวเหนียวพร้อมโรยหน้ากุ้ง
5 เตรียมส่วนผสมของหน้ากุ้ง คือ กุ้งสับ รากผักชีโขลก กระเทียมพริกไทยละเอียด มะพร้าวผสมกับสีส้ม
6 ใส่น้ำมันลงกระทะ พอเห็นว่าร้อนให้ใส่รากผักชีโขลกผัดจนหอม ใส่มะพร้าว กุ้ง ผัด7 ให้เข้ากัน แล้วใส่น้ำตาลทราย เกลือ โรยด้วยใบมะกรูดหั่นเป็นเส้นเล็กๆ ผัดให้เข้ากัน

- หมายเหตุ
- ข้าวเหนียวควรล้างให้สะอาดก่อนทุกครั้งก่อนนำไปแช่กับน้ำขมิ้น
- มะพร้าวที่ผัดกับกุ้งควรไปคลุกสีให้เข้ากันก่อนนำไปผัด
- ใบมะกรูดฝอยที่ใช้โรยควรหั่นตามแนวขวาง


ที่มา

http://xn--22c6bf6ag6r.net

ข้าวเหนียวหน้าปลา

ขนมหน้าปลาแห้ง

ส่วนผสม ปริมาณ
หัวกะทิ 2 1/2 ถ้วย
เกลือ 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 350 กรัม
ข้าวเหนียวเขี้ยวงู 1 กิโลกรัม
น้ำใบเตย 1/2 ถ้วย
ใบเตย 5 ใบ
สารส้มทุบละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ


วิธีทำ

ส่วนของข้าวเหนียว

1 นำข้าวเหนียวที่เตรียมไว้มาซาว 2-3 ครั้ง ใส่สารส้มที่ตำละเอียดแล้วตามลงไป 1 ช้อนโต๊ะ ใส่น้ำให้ท่วมข้าวเหนียวแล้วแช่ทิ้งไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง
2 นำหัวกะทิ น้ำตาล และเกลือ มาผสมให้เข้ากันจนน้ำตาลละลาย
3 นำข้าวเหนียวที่ได้ไปนึ่งให้สุกประมาณ 40 นาที แล้วเทใส่ลงในอ่างผสมลงกับใบเตยที่ตัดไว้เป็นชิ้นๆ ลงไปในข้าวเหนียว ใส่ส่วนผสมของกะทิลงไป แล้วคนให้เข้ากัน
4 นำอ่างข้าวเหนียวที่ได้ปิดด้วยฝาที่ปิดได้พอดี แล้วทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที เปิดออกมาจะได้ข้าวเหนียวมูนพร้อมนำมาโรยด้วยหน้าปลา

ส่วนของหน้าปลา

1 หอมแดง น้ำมัน น้ำตาลทราย เกลือ ปลาช่อนหั่นเป็นชิ้นทอดให้สุกแล้วโขลกให้ละเอียด
2 ตั้งน้ำมันบนกะทะไฟให้ร้อน ใส่หอมเจียวให้เหลืองแล้วตักขึ้นมาพัก นำปลาที่โขลกไว้มาคั่วให้เหลืองและกรอบ เสร็จแล้วตักขี้นมาพักให้เย็นลง นำมาผสมกับ เกลือ น้ำตาลทราย หอมเจียว ให้เข้ากัน

- หมายเหตุ

-ปลาช่อนควรดูปลาที่เนื้อแน่นและมาก เพราะจะได้เนื้่อปลาที่ฟูและปริมาณเยอะ
-ไฟที่ใช้เจียวหอมแดงควรใช้ระดับปานกลาง และเจียวแค่พอดูเหลือง
-เนื้อปลาที่ใช้ผสมกับส่วนผสม ควรพักให้เย็นก่อน เพราะถ้าผสมเลยขณะที่ยังร้อนจะทำให้น้ำตาลทรายละลาย


ที่มา

http://xn--22c6bf6ag6r.net

วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ขนมปังสังขยา

ไส้สังขยาจิ้มกับขนมปังทำง่ายมากๆ ค่ะ

ขนมปังสังขยา

ส่วนผสม ปริมาณ
นมสด 2 ถ้วย
หัวกะทิ 2 ถ้วย
ไข่แดง 6 ฟอง
แป้งข้าวโพด 1 ถ้วย
วานิลลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ถ้วย

วิธีทำ
นำไข่มาตี ผสมกะทิ แป้งข้าวโพด นม และน้ำตาลทรายใส่ลงไปแล้วคนให้เข้ากัน ต่อจากนั้นเอาส่วนผสมที่ได้ไปตุ๋น20นาทีโดยประมาณ (ใส่กลิ่นและสีตามต้องการ ส่วนใหญ่จะใส่น้ำไบเตยข้นๆประมาณ 1/4 ถ้วย) lสุกแล้วยกลงพร้อมรับประทานสำหรับจิ้มกับขนมปัง


ที่มา

http://xn--22c6bf6ag6r.net/

ขนมเปี๊ยะ

ขนมเปี๊ยะ

ส่วนผสมแป้งหุ้มชั้นนอก ปริมาณ
แป้งสาลี 250 กรัม
่เนยขาว 75 กรัม
น้ำตาลทราย 65 กรัม
เกลือ 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 120 กรัม
ส่วนผสมแป้งหุ้มด้านใน
แป้งสาลี 250 กรัม
เนยขาว 110 กรัม
ส่วนผสมทำไส้
ถั่วเขียวนึ่งบด 1/2 กิโลกรัม
เนยสดผสมน้ำมันพีช 120 กรัม
น้ำเปล่า 60 กรัม
พริกไทยป่น 6 กรัม
เกลือ 1 1/2 กรัม
ไข่แดงของไข่เค็ม 150 กรัม
น้ำตาลทราย 300 กรัม

วิธีทำขนมเปี๊ยะ
1 เตรียมทำแป้งชั้นนอกนำแป้งสาลีมาร่อน ให้ตรงกลางเป็นบ่อ
2 เทน้ำ น้ำตาล และเกลือลงไปตรงกลางแล้วคนใหเข้ากัน
3 ใส่เนยขาวคลุกเคล้าให้เข้ากัน นวดให้แป้งเรียบเนียน พักแป้งที่ได้ไว้ประมาณ 1 ช.ม. นำมาตัดแบ่งเป็นก้อน ก้อนละประมาณ 10 กรัมแล้วแต่ต้องการเล็กใหญ่ แล้วนำมาหุ้มแป้งชั้นในอีกทีหนึ่ง หมักทิ้งไว้ประมาณ 8-10 นาที
4 เตรียมส่วนผสมของไส้ขนม โดยผสมถั่วเขียวบด น้ำ น้ำตาล น้ำมัน เกลือ และพริกไทยป่นให้เข้ากัน กวนในกะทะจนร่อน แล้วยกขึ้นพักให้เย็น
5 นำไส้มาปั้นขนาดเท่ากับขนาดของแป้งที่ปันชั้นในคือประมาณ 8 กรัม
6 เตรียมทำแป้งชั้นในโดยการ นำแป้งสาลีมาร่อน และให้ตรงกลางเป็นบ่อเช่นกัน แล้วใส่เนยขาวลงไป นวดให้เนียนเข้ากันตัดแบ่งเป็นก้อนๆ ละประมาณ 8 กรัม เพื่อทำเป็นแป้งด้านชั้นใน
7 นำแป้งชั้นนอกมารีดแผ่ออกเป็นแผ่น แล้วม้วนเป็นท่อนไม้ทำแบบนี้สองครั้งแล้วตัดแบ่งออกเป็นสองชิ้น
8 แผ่แป้งออกเเป็นแผ่นกลมสำหรับห่อ พร้อมใส่ไส้และไข่เค็ม ห่อให้มิดทาหน้าด้วยไข่แดงแล้วนำไปอบที่ 400 ฟาเรนไฮต์ ประมาณ 25 นาที จนสุก

ที่มา

http://xn--22c6bf6ag6r.net

วันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ขนมเบื้อง

มาลองหัดทำ “ขนมเบื้อง” ขนมไทยโบราณสุดอร่อย เหมาะกับการทำเป็นอาชีพที่หารายได้เสริมได้ค่ะ

ขนมเบื้องไทย

ส่วนผสมแป้งห่อ ปริมาณ
แป้งถั่วเขียว 200 กรัม
่แป้งข้าวเจ้า 350 กรัม
แป้งสาลี 100 กรัม
น้ำปูนใส 2 ถ้วย
น้ำตาลปี๊บ 1/2 ถ้วย
ไข่เป็ด (ใช้แต่ไข่แดง) 2 ฟอง
ส่วนผสมของน้ำตาลทาขนม
ไข่เป็ด (ใข้เฉพาะไข่ขาว) 20 ฟอง
น้ำตาลปี๊บ 500 กรัม
ส่วนผสมครีม
ไข่เป็ด (ใช้เฉพาะไข่ขาว) 3 ฟอง
ครีมออฟทาร์ทาร์ 1/2 ช้อนชา
น้ำตาลทรายขาว 1/2 ถ้วย

>>ไส้หวาน ใช้ฝอยทอง งาขาว และมะพร้าวขูด
>>ไส้เค็ม ใช้กุ้งสดผัดกับน้ำมันปรุงรสด้วย เกลือ พริกไทย ต้นหอมซอย และโรยผักชี

1 ทำส่วนผสมตัวแป้งโดยการ นำแป้งถั่วเขียว แป้งสาลี และแป้งข้าวเจ้ามาผสมและร่อนรวมกัน ร่อนแล้วนำไปผสมกับน้ำปูนใส ไข่แดงและน้ำตาลปี๊บ ขยำและนวดจนกว่าส่วนผสมเข้ากันได้ดี แล้วพักไว้
2 ทำส่วนผสมน้ำตาลทาขนม โดยใช้ไข่ขาวมาผสมเข้ากันกับน้ำตาลปี๊บ คนจนกว่าน้ำตาลละลายเข้ากับไข่ แล้วพักไว้
3 ทำหน้าครีม โดยนำไข่ขาว ครีมออฟทาร์ทาร์ และน้ำตาลทรายมาผสมรวมกัน ตีให้ผสมกันจนเนียนและฟู เสร็จแล้วพักไว้เช่นกัน
3 มาถึงขั้นตอนทำขนมให้เป็นรูปเป็นร่างแล้วค่ะ นำกะทะแบนตั้งบนไฟ ใช้กระจ่าแตะที่ส่วนผสมตัวแป้งที่ได้จากข้อที่ 1 ละเลงวนในกะทะ แล้วเลือกว่าจะใช้ ส่วนผสมข้อ 2 หรือ 3 ทาบนตัวแป้ง
4 ใส่ไส้ที่เตรียมไว้ เค็มหรือหวาน แล้วพับครึ่ง แซะขนมออกมาใส่ถาด พร้อมรับประทานค่ะ



ที่มา

http://xn--22c6bf6ag6r.net

ขนมอาลัว

ขนมอาลัว ขนมหวานไทยโบราณ ขนมที่มีสีสันรูปร่างน่ารับประทานมากค่ะ

ขนมอาลัว

ส่วนผสม ปริมาณ
มะพร้าวขูดสีขาว 1 กก.
แป้งสาลี 3 1/2 ขีด
น้ำตาลทราย 3 1/2 ขีด
น้ำตาลโตนด 2 ถ้วย
สีผสมอาหาร
น้ำลอยดอกมะลิ

วิธีทำ
1 นำแป้งสาลีมาร่อนแล้วอบด้วยควันเทียนไว้ 1 คืน
2 นำมะพร้าวที่เตรียมไว้มาคั้นเอากะทิ โดยไม่ต้องเติมน้ำ เมื่อคั้นได้แล้วให้เติมน้ำลอยดอกมะลิลงไปให้ได้กะทิ 5 ถ้วย
3 นำแป้งกับกะทิมาผสมให้เข้ากัน เสร็จแล้วนำไปกรองใส่กะทะทอง ตั้งไฟปานกลางกวนให้เร็ว จนแป้งสุกใสไม่เป็นลูก จึงใส่น้ำตาลทรายตามลงไปกวนด้วยไฟเบาๆ แล้วใส่สีผสมอาหารที่เตรียมไว้ โดยมากใช้สีชมพู และเขียวอ่อนหรือตามใจชอบ
4 กวนไปเรื่อยโดยใช้ไฟอ่อนไปเรื่อยๆให้อุณหภูมิลดลง ยกลงจากเตา ทิ้งไว้ให้อุ่นซักพัก แล้วหยอดขนมลงในถาด ให้ขนมมียอดแหลมลักษณะเหมือนหยอดทองหยอด ขนาดให้ได้ประมาณเหรียญบาทกำลังดี หยอดหมดแล้วนำไปตากแดดประมาณ 2-4 แดด จนสังเกตุด้านนอกเป็นเกลียวขาวนวล อย่าลืมกลับให้ด้านล่างโดนแดดด้วย พอเห็นว่าน้ำตาลขึ้นเป็นเกล็ดแล้วให้นำไปอบด้วยควันเทียนอีกรอบหนึ่ง

- หมายเหตุ
อาลัวเป็นขนมที่มีลักษณะข้างนอกแห้งนวลเกล็ดน้ำตาลแต่ข้างในนุ่มเป็นยางมะตูม


ที่มา

http://xn--22c6bf6ag6r.net

วันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ขนมไข่หงษ์

ขนมไข่หงษ์

ส่วนผสม ปริมาณ
เผือกนึ่งสุกบดละเอียด 1/2 ถ้วย
น้ำกะทิคั้นข้นๆ 1/4 ถ้วย
ถั่วเขียวซีกนึ่งบดละเอียด 2 ถ้วย
แป้งข้าวเจ้า 1/4 ถ้วย
แป้งข้าวเหนียว 2 ถ้วย
เกลือ 1/2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 2 ถ้วย
รากผักชี กระเทียม พริกไทยโขลกละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันใช้ทอด
น้ำเปล่าสำหรับเคลือบ

วิธีทำขนมไข่หงษ์
1 นำแป้งข้าวเหนียว เผือกซีกนึ่งบดละเอียด แป้งข้าวเจ้า และกะทิมานวดเข้ากันกับน้ำจนแป้งเนียนนุ่มและไม่ติดมือ เสร็จแล้วพักไว้
2 ใช้น้ำมันน้อยผัดถั่วเขียวซีกนึ่งบดละเอียด น้ำตาลทราย พริกไทยกระเทียารากผักชีโขลก และเกลือรวมกัน พักให้เย็นแล้วปั้นเป็นก้อนสำหรับไส้
3 นำแป้งที่นวดแล้วมาคลึงเป็นท่อนๆ ลักษณะยาวกลม ตัดท่อนแบ่งออกให้ได้เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้ว กดแผ่ออกให้แบนเพื่อเตรียมสำหรับห่อไส้ นำไส้ที่ปั้นไว้มาใส่แล้วห่อหุ้มทรงกลมให้มิดชิด
4 ทอดแป้งห่อไส้ในกระทะร้อน สังเกตุดูว่าสุกเหลืองจึงตักออกสะเด็ดน้ำมัน
5 เตรียมทำน้ำตาลเคลือบโดยการเทน้ำมันทอดขนมออกจากกะทะ ใส่น้ำตาล 1 ถ้วย ใส่น้ำเล็กน้อย เคี่ยวโดยใช้ไฟอ่อนในกะทะจนเหนียวเป็นยาง นำขนมใส่ไปคลุกเคล้าให้น้ำตาลเคลือบทั่วก้อนขนม พักให้เย็นแห้งน้ำตาลเคลือบจับทั้งก้อนดูสวยงามพร้อมรับประทานหรือเก็บใน ภาชนะที่ลมเข้าไม่ได้

ที่มา
http://xn--22c6bf6ag6r.net

แกงโฮะ

ในสมัยก่อน เวลาทำบุญบ้านหรืองานบุญต่างๆ มักจะเตรียมของที่ทำอาหารไว้จำนวนมาก ในสมัยก่อนการนำเอาแกงต่างๆ ที่เหลืออยู่ในหม้อ (หลังจากที่ตักรับประทานอิ่มแล้ว) รวมทั้งผักและเนื้อสัตว์ต่างๆ ที่เหลือจากการเตรียมมาทำแกงโฮะ ซึ่ง “โฮะ” เป็นภาษาเหนือ หมายถึง เอามารวมกัน

คน ไทยในแต่ละภาคมีวิธีการรับประทานผักอย่างหลากหลายแล้วแต่จะดัดแปลงกรรมวิธี อย่างไร แกงโฮะก็เป็นอาหารที่ปรุงจากผักหลายชนิดคล้ายกับอาหารหลายๆ อย่างของคนไทยภาคอื่นๆ ถ้าหากนึกถึงแกงก็มักจะนึกภาพแกงที่มีน้ำแกง จะมากน้อยหรือขลุกขลิกก็แล้วแต่ ส่วนแกงโฮะจะเป็นแกงที่แห้งๆ คล้ายผัด ซึ่งก็เป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญของแกงโฮะ

เครื่องปรุง

หมูสามชั้น

100 กรัม

เนื้อไก่

100 กรัม

มะเขือเปราะ

½ ถ้วย (100 กรัม)

มะเขือพวง

½ ถ้วย (100 กรัม)

มะเขือยาว

1 ลูก (200 กรัม)

ถั่วฝักยาว

6 ฝัก (100 กรัม)

ตำลึงเด็ดใบอ่อน

2 ถ้วย (100 กรัม)

หน่อไม้เปรี้ยว

300 กรัม

ผักชีฝรั่งหั่นหยาบ

¼ ถ้วย (30 กรัม)

ผักชี ต้นหอม หั่นหยาบ

อย่างละ 1 ต้น (30 กรัม)

พริกขี้หนูทอด

10 เม็ด (5 กรัม)

แตงกวา

5 ลูก (200 กรัม)

วุ้นเส้นแช่น้ำตัดสั้น

½ ถ้วย (300 กรัม)

สะระแหน่เด็ดเป็นใบ

¼ ถ้วย (30 กรัม)

ใบโหระพา

1 กิ่ง (5 กรัม)

น้ำมัน

¼ ถ้วย (45 กรัม)




















เครื่องปรุงเครื่องแกง

พริกแห้งแช่น้ำ

5 เม็ด (10 กรัม)

หอมแดงซอย

3 ช้อนโต๊ะ (45 กรัม)

เกลือป่น

2 ช้อนชา (15 กรัม)

กระเทียมซอย

2 ช้อนโต๊ะ (30 กรัม)

ตะไคร้หั่นฝอย

2 ช้อนโต๊ะ (30 กรัม)

กะปิ

1 ช้อนชา (8 กรัม)








วิธีทำ
1. โขลกเครื่องแกงทั้งหมดรวมกันให้ละเอียด
2. ล้างหมู ไก่ หั่นชิ้นบาง ล้างมะเขือพวง มะเขือเปราะ ถั่วฝักยาว และมะเขือยาว หั่นถั่วฝักยาวเป็นท่อน 1/2 นิ้ว หั่นมะเขือยาวเป็นท่อน 1/2 นิ้ว แล้วจึงผ่าครึ่ง มะเขือเปราะผ่าสี่
3. ใส่น้ำมันในกะทะ ตั้งไฟให้ร้อนใส่เครื่องแกงผัดให้หอม ใส่หมู ไก่ ผัดให้เข้ากัน ใส่หน่อไม้เปรี้ยวใช้ไฟอ่อนเคี่ยวสักครู่ ใส่วุ้นเส้นผัดให้เข้ากัน
4. จัดใส่จาน โรยใบสะระแหน่วางพริกขี้หนูทอดด้านข้างรับประทานกับใบโหระพา แตงกวา หั่นเป็นแว่น

สรรพคุณทางยา
1. มะเขือเปราะ รสขมเล็กน้อย กระตุ้นการทำงานของกระเพาะลำไส้ ช่วยบำรุงธาตุ
2. มะเขือพวง รสขมเฝื่อนเปรี้ยวเล็กน้อย แก้ไอ ช่วยย่อยอาหาร ขับปัสสาวะ
3. มะเขือยาว รสขื่น กระตุ้นการทำงานของกระเพาะลำไส้
4. ถั่วฝักยาว รสมันหวาน มีคุณค่าทางอาหารสูง กระตุ้นการทำงานของกระเพาะลำไส้บำรุงธาตุดิน
5. ตำลึง รสเย็น ใบสดตำคั้นน้ำแก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย ปวดแสบปวดร้อน และคั้นรับประทานเป็นยาดับพิษร้อน (แก้เจ็บตา ตาแดง ตาแฉะ)
6. หน่อไม้ รสขมหวานร้อน ราก รสอร่อยเอียนเล็กน้อย ใช้ขับปัสสาวะ แก้ไตพิการ ใบไผ่ เป็นยาขับฟอกล้างโลหิตระดูที่เสีย
7. ผักชีฝรั่ง รสจืด กลิ่นหอม ขับลม ดับกลิ่นคาว
8. ผักชี ช่วยละลายเสมหะ แก้หัด ขับเหงื่อ ขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ เจริญอาหาร
9. หอมแดง รสเผ็ดร้อนแก้ไข้เพื่อเสมหะ บำรุงธาตุ แก้ไข้หวัด
10. พริกขี้หนู รสเผ็ดร้อน ช่วยเจริญอาหาร ขับลม ช่วยย่อย
11. แตงกวา รสจืด เป็นผักที่มีคุณค่าทางอาหารสูง กระตุ้นการทำงานของกระเพาะลำไส้ ช่วยระบาย ขับปัสสาวะ บำรุงผิวพรรณ
12. สะระแหน่ รสหอมร้อน ใบ/ยอดอ่อน ขับเหงื่อ แก้ปวดท้อง ขับลมในกระเพาะลำไส้แก้จุกเสียดแน่นเฟ้อ แก้อาการเกร็งของกล้ามเนื้อ
13. โหระพา รสเผ็ดปร่าหอม แก้ท้องขึ้น อืดเฟ้อ แก้ลมวิงเวียน ช่วยย่อยอาหาร ขับลมในลำไส้ ขับเสมหะ
14. กระเทียม รสเผ็ดร้อน ขับลมในลำไส้ แก้ไอขับเสมหะ ช่วยย่อยอาหาร แก้โรคทางผิวหนัง น้ำมันกระเทียม มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของเชื้อรา แบคทีเรีย และไวรัส ลดน้ำตาลในเลือด ลดไขมันในหลอดเลือด
15. ตะไคร้ แก้ปวดท้อง ขับปัสสาวะ บำรุงธาตุ และ ช่วยเจริญอาหาร และขับเหงื่อ

ประโยชน์ทางอาหาร
แกง โฮะเป็นอาหารของภาคเหนือ ที่ได้จากผักหลายอย่างมารวมกัน จะได้รับวิตามิน แร่ธาตุจากผักต่างๆ รวมทั้งโปรตีน และพลังงาน วุ้นเส้นจะช่วยกระตุ้นการทำงานของกระเพาะอาหารและลำไส้ อีกทั้งยังได้คุณค่าอาหารโปรตีนเพราะผลิตจากถั่วเขียว


ที่มา

http://www.horapa.com

วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2554

บะหมี่เย็นรสปลาหมึก



ส่วนผสม

ปลาหมึก 1 ตัว
กะหล่ำปลี 3 ใบ
ต้นหอม 1 ต้น
หอมใหญ่ 1/2 หัว
แครอท 1/4 หัว
เห็ดหอม 3 ดอก
กุยช่าย 1/4 ต้น
บะหมี่เย็น 2 ก้อน
น้ำมันสลัด ปริมาณพอเหมาะ
แตงกวาเกาหลี เล็กน้อย
งาดำ เล็กน้อย

ส่วนผสมน้ำปรุง
ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
พริกป่น 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันงา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1. เอาไส้ปลาหมึกออก ล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นพอคำ
2. หั่นผักให้มีขนาดพอดีคำ นำบะหมี่เย็น ลวกน้ำร้อน นำขึ้นแช่ในน้ำเย็น
3. เทน้ำมันสลัด ผัดปลาหมึกให้สุก
4. เติมผักลงไป และปรุงรสด้วยส่วนผสมน้ำปรุงรส
5. จัดใส่ตรงกลางของจาน นำบะหมี่เย็นวางไว้โดยรอบ
6. ตกแต่งด้วย แตงกวาเกาหลี และโรยงาดำไว้บนเส้น



ที่มา

horapa.com

ข้าวตังหน้าตั้ง



ส่วนผสม
ข้าวตังแผ่นสำเร็จรูป 20 แผ่น
หัวกะทิ 1 ถ้วย
รากผักชี กระเทียม พริกไทยโขลกละเอียดอย่างละ 1 ช้อนชา
เนื้อหมูบดและเนื้อกุ้งหั่นหยาบๆ 50 กรัม
หอมแดงสับละเอียด 3 ช้อนโต๊ะ
ถั่วลิสงคั่วป่นละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา น้ำตาลทราย น้ำมะขามเปียก 1/4 ถ้วย
ผักชี พริกชี้ฟ้าหั่นฝอยเล็กน้อยสำหรับแต่งหน้าอย่างละ 3 ช้อนโต๊ะ


วิธีการทำ
1.ทอดข้าวตังในน้ำมันร้อนจัด พอเหลืองนำขึ้นพักไว้
2.เคี่ยวหัวกะทิ 5 นาที ใส่รากผักชี กระเทียม พริกไทย ผัดให้หอม ใส่หอมแดง หมูบด กุ้งบด ผัดพอสุก
3.ใส่น้ำปลา น้ำตาลทราย น้ำมะขามเปียก รอให้เดือด ใส่ถั่วลิสงคั่ว คนให้เข้ากัน แล้วยกลง
4.ตักใส่ถ้วยประดับหน้าด้วยผักชีและพริกชี้ฟ้าแดง จัดรับประทานพร้อมข้าวตัง

ที่มา

horapa.com

วันอังคารที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ปลาแซลมอนทอดราดซอสมัสมั่น




สิ่งที่ต้องเตรียม
ปลาแซลมอนหั่นเป็นชิ้น
น้ำหนักประมาณ 200 กรัม จำนวน
แป้งสาลีอเนกประสงค์สำหรับคลุก
น้ำมันพืชสำหรับผัดและทอด
น้ำพริกแกงมัสมั่น
หัวกะทิ
น้ำตาลปี๊บ
น้ำมะขามเปียก
นมข้นจืด
ผักรวมผัดเนย (แครอท,ข้าวโพดอ่อน,
เมล็ดถั่วลันเตาลวก) สำหรับรับประทาน



1 ช้อน


1 ช้อนโต๊ะ
100 กรัม
2 ช้อนชา
2 ช้อนชา
1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
- คลุกปลาแซลมอนกับแป้งสาลีอเนกประสงค์ให้ทั่ว ทอดในน้ำมันพืชที่อุ่นจนร้อน จนสุกเหลือง
ทั้งสองด้าน ตักขึ้น พักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จาน เตรียมไว้
- ผัดน้ำพริกแกงมัสมั่น กับน้ำมันพืชจนมีกลิ่นหอม ค่อยๆเติมกะทิ ผัดให้เข้ากันจนน้ำพริกแกง
มีลักษณะฟูและกะทิแตกมัน ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บและน้ำมะขามเปียก ชิมรสตามชอบ เติมนมข้นจืด
ผัดให้เข้ากัน ตักราดบนชิ้นปลาที่ทอดเตรียมไว้ รับประทานคู่กับผักรวมผัดเนย


ไก่ทอดจูจอนส์



สิ่งที่ต้องเตรียม
เนื้ออกไก่เลาะกระดูลอกหนังออก
ผักชีไทยสับละเอียด
ยี่หร่าป่น
ไข่ไก่ตีพอแตก
เกล็ดขนมปังป่น (1)
พริกปาปริก้า
แป้งสาลีอเนกประสงค์
ผักชีลาว
น้ำมันปาล์มสำหรับทอด,
เกล็ดขนมปังป่น (2) สำหรับคลุก

4 ชิ้น
1 ช้อนชา
1/2 ช้อนชา
2 ฟอง
175 กรัม
2 ช้อนชา
45 กรัม
2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- แล่เนื้ออกไก่แต่ละชิ้นออกเป็น 2 ส่วน วางชิ้นไก่บนแผ่นพลาสติก วางทับด้วยแผ่นพลาสติก
อีกแผ่น คลึงเนื้ออกไก่ด้วยไม้คลึงแป้งให้เป็นแผ่นหนาประมาณ 1/4 นิ้ว แล้วหั่นเป็นเส้นยาว
ประมาณ 2.5 เซนติเมตร เตรียมไว้
- ผสมเกล็ดขนมปัง (1) กับผักชีไทย พริกปาปริก้าและยี่หร่าเข้าด้วยกัน แล้วนำเนื้ออกไก่ที่
เตรียมไว้ลงคลุกให้ทั่ว ชุบไข่ไก่ คลุกเกล็ดขนมปังป่น(2)
- ทอดเนื้ออกไก่ในน้ำมันปาล์ม ที่อุ่นจนร้อนจนสุกเหลืองและกรอบ ตึกขึ้น พักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
จัดใส่จาน รับประทานคู่กับน้ำจิ้ม
สิ่งที่ต้องเตรียม (น้ำจิ้ม)
โยเกริ์ตรสธรรมชาติ
น้ำมะนาว
ผักชีไทยสับ
ผักชีฝรั่ง
พริกไทยดำป่น

275 กรัม
2 ช้อนโต๊ะ
4 ช้อนโต๊ะ
4 ช้อนโต๊ะ
1 ช้อนชา
วิธีทำ
- ผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน ชิมรสตามชอบ


วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2554

หมูกรอบ ทรงเครื่อง

สูตรอาหาร - หมูกรอบ ทรงเครื่อง


ส่วนผสมอาหาร


หมูสามชั้นติดหนัง
600
กรัม
เกลือ
1
ช้อนชา
พริกไทยป่น
1/3
ช้อนชา
กระเทียม
4
กลีบ
รากผักชี
4
ราก
ลูกพริกไทย หรือพริกไทยป่น
1/2
ช้อนชา
ซีอิ๊วขาว
1/2
ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส
1/2
ช้อนโต๊ะ



น้ำตาลทราย
1
ช้อนชา




































วิธีทำอาหาร


  • 1
  • ถ้า เป็นไปได้ ควรใช้หมูสามชั้นแบบมีหนังติดมาด้วยนะคะ จะได้หมูกรอบติดหนังด้วย หนังกรอบๆ บางคนคงชอบ 600 กรัม นี่ก็ได้จานนึงเลยนะคะ กินได้หลายคน ที่เอามาทำไม่มีหนัง แต่แค่นี้ก็โอเคแล้วค่ะ ขอให้เป็นสามชั้นชิ้นโตๆหน่อย ก็ใช้ได้แล้ว
  • วิธีทำอาหาร - หมูกรอบ ทรงเครื่อง
  • 2
  • ใช้ส้อมจิ้มให้ทั่ว จิ้มไปเลยค่ะ โรยเกลือและพริกไทย คลุกๆๆให้เข้ากัน
  • วิธีทำอาหาร - หมูกรอบ ทรงเครื่อง
  • 3
  • นำ หม้อใส่น้ำ กะให้ท่วมหมูนะคะ ตั้งไฟให้เดือด พอเดือดก็ใส่หมูลงไป ต้มไฟกลาง ประมาณ 40 นาที หรือจนกว่าหมูจะสุก เวลาเอาส้อมจิ้ม แล้วไม่มีน้ำชมพูๆ ออกมาจากหมู ก็ใช้ได้ค่ะ หน้าตามันมันเยิ้มเลยเนอะ หาชามหรือจานใบโตๆหน่อยมารองนะคะ แล้วก็เอาส้อมจิ้มๆให้พรุน จิ้มไปเลยไม่ต้องยั้งมือ
  • วิธีทำอาหาร - หมูกรอบ ทรงเครื่อง
  • 4
  • แล้ว หันมาทำเครื่องหมัก ตำรากผักชี กระเทียม พริกไทย ใส่เกลือหยิบมือนึง พอตำละเอียดแล้วก็ใส่ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส และน้ำตาล คนๆๆ ทุกอย่างให้เข้ากันแล้วเอาไปหมักกับหมู ทิ้งไว้ประมาณ 1-2 ชั่วโมง
  • วิธีทำอาหาร - หมูกรอบ ทรงเครื่อง
  • 5
  • ใคร ที่ใช้กระทะธรรมดา ก็ระวังเรื่องน้ำมันกระเด็นด้วยนะคะ ถ้ามีฝาครอบกันน้ำมันกระเด็นก็จะดีมาก ใช้ที่ทอดมันฝรั่งน่ะค่ะ ทอดไฟกลาง สะดวกดี ปิดฝา แล้วก็ทิ้งไปเลย จนกว่าหมูจะสุก เหลือง กรอบ ไม่ต้องห่วงเรื่องน้ำมันจะกระเด็น
  • วิธีทำอาหาร - หมูกรอบ ทรงเครื่อง
  • 6
  • หมู กรอบ ออกแนวนิโกรไปหน่อย ทอดนานไปนิด เพราะอยากให้มัน มันน้อยลงกว่านี้หน่อย แต่ที่ดำๆ คือตัวเครื่องเทศ เขี่ยทิ้งไปได้ สูตรนี้รับรอง หอมกระจายทั่วบ้านแน่ๆ ค่ะ
  • วิธีทำอาหาร - หมูกรอบ ทรงเครื่อง
  • 7
  • แล้วก็ทานกับข้าวสวยร้อนๆ ไม่ต้องมีน้ำราดก็อร่อย
  • วิธีทำอาหาร - หมูกรอบ ทรงเครื่อง
  • 8
  • ไข่ต้มด้วยอ่ะ แล้วจะกินกะไร ไข่ต้มเปล่าๆ ไม่อร่อยหรอก ติดคอตาย
  • วิธีทำอาหาร - หมูกรอบ ทรงเครื่อง





























































































































ที่มา


http://www.dumenu.com
  • 9
  • เลยเป็นที่มาของน้ำราด อ่ะ ราดไปนิดนึง
  • วิธีทำอาหาร - หมูกรอบ ทรงเครื่อง

วันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ทาโก้ซีฟู้ด



สิ่งที่ต้องเตรียม

หอมหัวใหญ่หั่นเต๋า100 กรัม
กระเทียมสับละเอียด3 ช้อนโต๊ะ
ใบกระวาน2 ใบ
โรสแมรี่ (Rosemary)1 ช้อนชา
น้ำมันมะกอก ตราเบอร์ทอลลี่ ชนิดคลาสสิค
(Bertolli Classico 100 % Pure Olive Oil)
3 ช้อนโต๊ะ
เนื้อกุ้งสดสับละเอียด200 กรัม
เนื้อมะเขือเทศปอกเปลือกในน้ำมะเขือเทศเข้มข้น (เฉพาะเนื้อ)150 กรัม
ซอสปรุงรส2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย2 ช้อนชา
พริกไทยป่น1 ช้อนชา
ผักไฮโดรโพนิกส์ 100 กรัม
แผ่นแป้งทาโก้อบพอมีกลิ่นหอม5 แผ่น
อาหารทะเลลวกสุก น้ำหนักรวม200 กรัม
เชดดาร์ชีสขูดสำหรับโรยหน้า100 กรัม
มะกอกดำหั่นเป็นแว่น, พริกชี้ฟ้าหั่นเต๋า, ผักชีฝรั่ง (Parsely) สำหรับแต่ง

วิธีทำ
ผัด หอมหัวใหญ่ กระเทียม ใบกระวานและโรสแมรี่กับน้ำมันมะกอก ตราเบอร์ทอลลี่ ชนิดคลาสสิค (Bertolli Classico 100 % Pure Olive Oil) จนมีกลิ่นหอม ใส่เนื้อกุ้งลงผัดจนสุก เติมเนื้อมะเขือเทศปอกเปลือกในน้ำมะเขือเทศเข้มข้น ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส น้ำตาลทรายและพริกไทยป่น ผัดจนสุกและเข้ากันดี จึงยกลง เตรียมไว้

วิธีการรับประทาน
จัด วางผักไฮโดรโพนิกส์ลงในแผ่นแป้งทาโก้ ตักซอสที่ผัดไว้และอาหารทะเลลวกสุกใส่ โรยหน้าด้วยเชดดาร์ชีส แต่งด้วยมะกอกดำ พริกชี้ฟ้าหั่นเต๋าและผักชีฝรั่ง (Parsely) ให้สวยงาม พร้อมรับประทาน


ฟาร์ฟาเลราดแกงกะหรี่



สิ่งที่ต้องเตรียม

เนื้ออกไก่หั่นเต๋า150 กรัม
เนยสดชนิดเค็ม50 กรัม
หอมหัวใหญ่หั่นเป็นชิ้น30 กรัม
แครอทกดด้วยพิมพ์50 กรัม
เมล็ดถั่วลันเตา30 กรัม
มันฝรั่งกดด้วยพิมพ์ 50 กรัม
เครื่องปรุงแกงกะหรี่ญี่ปุ่น30 กรัม
น้ำซุปไก่300 ซีซี
เกลือป่น1/2 ช้อนชา
ซอสถั่วเหลือง1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยดำป่น1 ช้อนชา
ฟาร์ฟาเล เบอร์ 61 ตราแอคเนซี (Agnesi Farfalle No.61) ต้มสุก 200 กรัม
กุ้งชุบแป้งทอดสำหรับรับประทาน

วิธีทำ
1 ผัดเนื้ออกไก่กับเนยสดชนิดเค็มพอสุกเหลือง ใส่หอมหัวใหญ่ แครอท เมล็ดถั่วลันเตา มันฝรั่งและเครื่องปรุงแกงกะหรี่ญี่ปุ่นลงผัดจนมีกลิ่นหอม เติมน้ำซุปไก่ ปรุงรสด้วยเกลือป่น ซอสถั่วเหลือง น้ำตาลทรายและพริกไทยดำป่น เคี่ยวจนกระทั่งผักสุกทั่วดี จึงยกลง
2 ตักส่วนผสมแกงกะหรี่ญี่ปุ่นที่เตรียมไว้ราดลงบนฟาร์ฟาเล เบอร์ 61 ตราแอคเนซี (Agnesi Farfalle No.61) ต้มสุก วางกุ้งชุบแป้งทอด พร้อมรับประทาน

สิ่งที่ต้องเตรียม (สำหรับการทำกุ้งชุบแป้งทอด)

แป้งสาลีอเนกประสงค์100 กรัม
น้ำเย็น180 กรัม
ไข่แดง1 ฟอง
กุ้งสดปอกเปลือกเหลือหาง 100 กรัม
น้ำมันมะกอก ตราเบอร์ทอลลี่ ชนิดเอ็กซ์ตร้าไลท์สำหรับทอด

วิธีทำ
ละลาย แป้งสาลีอเนกประสงค์กับน้ำเย็นพอข้น เติมไข่แดง คนให้เข้ากัน จุ่มกุ้งสดลงชุบในส่วนผสมแป้ง นำลงทอดในน้ำมันมะกอก ตราเบอร์ทอลลี่ ชนิดเอ็กซ์ตร้าไลท์ที่อุ่นจนร้อน ใช้ไฟปานกลาง ทอดจนสุกเหลืองดี จึงตักขึ้น เตรียมไว้